วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

พระจันทร์สีน้ำเงิน


นวนิยายฉบับย่อ เรื่องพระจันทร์สีน้ำเงิน
                                                                       โดยประพาส หมอกม่วง

            รอมเป็นลูกชายของสวัสดี มีพี่สาวชื่อหน่อย น้องสาวชื่อมดดำและหนูนา แม่ของรอม เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยและเป็นนักเขียน รอมจะสนิทกับหนูนามากที่สุด ส่วนหน่อยกับมดดำนั้นชอบด่าว่ารอม จึงทำให้รอมไม่ค่อยชอบพูดคุยด้วย ตอนที่รอมยังเป็นเด็ก ครอบครัวของรอม มีปัญหา พ่อกับแม่ได้หย่าร้างกัน สาเหตุมาจากความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน และพ่อของรอมก็ไม่เคยหาเงินมาดูแลครอบครัวเลย คอยแต่จะด่าว่าแม่ ทำให้พ่อกับแม่ทะเลาะกันบ่อย และอีกสาเหตุหนึ่งอาจมาจากตัวรอมเอง รอมเกิดวันที่ 13 ซึ่งพ่อของรอมคิดว่าตัวเลข 13 เป็นเลขที่ไม่ดี จะนำแต่ความอัปมงคลมาสู่ครอบครัว จึงไม่ถูกชะตากับรอม คอยหาเรื่องแกล้งรอมอยู่ตลอด ครั้งหนึ่ง พ่อของรอมทำลายป่านคมที่เป็นอาวุธประกอบของว่าว รอมประดิษฐ์ขึ้นประกอบด้วยด้ายธรรมดาหนึ่งขด เศษแก้ว ทราย และอื่น ๆ รอมเสียใจมากและไม่เคยลืมเหตุการณ์นี้เลย พ่อของรอมทำ อย่างนี้หลายครั้งจนแม่ของรอมทนไม่ไหว พ่อของรอมมีภรรยาใหม่และเขาได้พาภรรยามาอยู่ บ้านเดียวกับแม่ แม่จึงตัดสินใจพาลูก ๆ ออกจากบ้าน ถึงแม้บางครั้งรอมจะไม่ชอบพ่อสักเท่าไร แต่รอมก็ไม่เคยคิดโต้เถียงด่าว่าพ่อ และรอมคิดเสมอว่าพ่อเป็นผู้ให้กำเนิด ลูกก็ไม่ควรจะโกรธพ่อ
          แม่ได้พารอมและลูก ๆ อีก 3 คนออกจากบ้านมาหาบ้านใหม่ หน่อยและมดดำมากับแม่ด้วย ทั้ง ๆ ที่ศาลตัดสินให้หน่อยและมดดำอยู่ในความรับผิดชอบของพ่อ ในระยะแรกแม่ได้รับ ความช่วยเหลือจากน้าวิสาขาซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้อง แต่ด้วยความเกรงใจของแม่ จึงได้หาที่อยู่ใหม่จนกระทั่งมาเช่าห้องอยู่ที่ตึกของน้าชูลักษณ์เพื่อนของแม่ มีน้าเทพเพื่อนของแม่อีกหนึ่งคนคอยให้ความช่วยเหลือ เมื่อแม่จัดทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้ว แม่เห็นว่าถ้าจะอยู่กันทั้งสี่คนในห้องนี้ เห็นจะคับแคบและแม่ก็ไม่มีเงินพอที่จะเช่าห้องเพิ่ม จึงได้ส่งหน่อยไปเรียนอยู่ที่เชียงใหม่ฝากกับญาติฝ่ายพ่อให้ช่วยดูแล รอม มดดำและหนูนาส่งไปอยู่กับตายายที่พิษณุโลก ต่อมารอมได้ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ กับแม่ ในระหว่างนี้แม่ต้องออกไปทำงานทุกวันเพราะต้องหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว แรก ๆ รอมรู้สึกเหงา
            รอมกับแม่อยู่กรุงเทพฯได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องไปอาศัยอยู่ที่อื่น เพราะแม่มีความจำเป็นต้องไปเมืองนอก เพื่อไปหาประสบการณ์ที่จะมาเขียนหนังสือเล่มใหม่ ในการไปครั้งนี้แม่จะไปพักอยู่กับน้ารันแฟนใหม่ของแม่ ซึ่งรอมก็รู้เรื่องนี้ดี และแอบไม่พอใจอยู่บ้างแต่ก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะรอมไม่อยากให้แม่คิดมาก ที่ผ่านมาแม่ก็เหนื่อยมากแล้ว แม่ฝากรอมให้อยู่ในความดูแลของลุงและป้า ซึ่งในตอนแรกรอมก็ได้ปฏิเสธแต่แม่ยืนยันที่จะให้รอมอยู่บ้านลุงและป้า รอมบังคับใจแม่ไม่ได้ วันที่แม่ออกเดินทาง รอมและน้าเทพได้ไปส่งแม่ที่สนามบิน แม่บอกให้รอมดูแลตัวเองดี ๆ และให้เชื่อฟังคำสั่งสอนของลุงซึ่งรอมก็รับปากแม่ เมื่อแม่ไปเมืองนอกแล้ว รอมก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านของลุง เนื่องจากลุงและป้าสะใภ้ต่างก็มุ่งแต่ทำงานไม่ได้สนใจรอมเท่าไรเพราะคิดว่ารอมดูแลตัวเองได้แล้ว ทำให้รอมไม่ได้รับความอบอุ่นจากพวกเขา แต่รอมก็ไม่ขัดข้องเรื่องเงิน เพราะแม่ได้ส่งเงินมาให้รอมใช้ทุกเดือน ระยะนี้รอมไปโรงเรียนเองทุกวัน ไม่เหมือนแต่ก่อนที่แม่คอยไปรับ-ส่ง รอมน้อยใจแม่ที่ไม่เขียนจดหมายมาหาและเข้าใจผิดว่าแม่ลืมรอมเสียแล้ว รอมเริ่มเป็นเด็กเกเร หนีโรงเรียนไปเที่ยวกับเพื่อน รอมมีเพื่อนสนิทอยู่ที่โรงเรียน 1 คน ชื่ออ้วน ทั้งคู่แอบชวนกันหนีโรงเรียนไปอยู่ที่ห้องของแม่บ่อย ๆ น้าเทพและน้าชูลักษณ์ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร รอมและอ้วนได้เริ่มลองสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เมื่อรอมไม่มีเงินซื้อบุหรี่ ก็จะขโมยของในบ้านของลุงไปขายบ้าง จำนำบ้าง โดยที่ลุงและป้าไม่รู้ รอมได้ใช้ชีวิตเสเพลอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งแม่กลับมาจากเมืองนอก รอมจึงเลิก
            แม่กลับมาถึงก็ได้พารอมออกไปหาบ้านใหม่อีก กว่าจะได้บ้านที่ถูกใจก็ใช้เวลาหาอยู่หลายวัน แม่ได้ชวนเพื่อน ๆ มาช่วยกันขนของ เมื่อแม่ย้ายบ้านเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ก็ช่วยกันจัดข้าวของจนเสร็จเรียบร้อย แม่จึงไปรับหน่อย มดดำ และหนูนา มาอยู่ด้วยกัน ทำให้ครอบครัวอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง แม้จะขาดพ่อไปหนึ่งคนแต่ทุกคนก็มีความสุข ในระหว่างนี้เป็นช่วงโรงเรียนปิดภาคเรียน แม่ได้ย้ายโรงเรียนของรอมและลูก ๆ ให้มาอยู่ใกล้บ้านเพื่อสะดวกใน การเดินทาง ปีนี้หน่อยก็สอบเข้ามหาวิทยาลัย หน่อยเลือกที่จะเรียนศิลปะเหมือนแม่ แม่ก็ไม่ได้บังคับอะไร ส่วนรอมแม่อยากให้เรียนหมอ และรอมก็ไม่ขัดใจแม่ยอมเรียนตามที่แม่ขอร้อง ทั้ง ๆ ที่รอมอยากเรียนศิลปะ ส่วนมดดำและหนูนาแม่ให้เรียนโรงเรียนใกล้ ๆ บ้านเพื่อสะดวกในการไปกลับ ในช่วงนี้น้ารันกลับจากเมืองนอกมาอยู่ที่กรุงเทพฯ และได้ย้ายมาอยู่กับแม่ แม่ได้อธิบายให้ลูก ๆ เข้าใจเกี่ยวกับการมาของน้ารันครั้งนี้ ซึ่งทุกคนในบ้านไม่ได้ว่าอะไร เพราะทราบเรื่องของแม่กับน้ารันมาก่อนหน้านี้แล้ว
            เมื่อรอมย้ายโรงเรียน เขาก็มีเพื่อนใหม่ รอมเป็นคนมีเพื่อนมาก ไม่ว่าเพื่อนในโรงเรียนเดียวกันหรือเพื่อนต่างโรงเรียน หรือแม้กระทั่งเพื่อนเก่าก็ยังติดต่อกันอยู่ ซึ่งเพื่อนแต่ละคนที่รอมคบจะเป็นเด็กเหลวไหลและเกเรทั้งนั้น รอมได้พาเพื่อนมาเที่ยวบ้านบ่อย ๆ ขาประจำเห็นจะเป็นเบิ้ม อ๊อด และใหม่ แม่ไม่ชอบเพื่อนของรอมแม้แต่คนเดียว แม่จะคอยซักถามประวัติว่าเป็นใคร มาจากไหน เพราะกลัวว่าเพื่อนจะพารอมเสีย ซึ่งรอมก็เกรงใจเพื่อนอยู่ไม่น้อย แม่พยายามเตือนรอมให้เลือกคบเพื่อน แต่รอมไม่คิดอะไร
            แม่ไม่ค่อยมีเวลาให้รอมเหมือนแต่ก่อน แม่ได้เอาเวลาไปทุ่มเทอยู่กับงานและให้ความสนใจ กับลูกผู้หญิงมากกว่ารอม อาจเป็นเพราะพวกเขาห่างแม่ไปนาน และแม่คิดว่ารอมเป็นผู้ชาย สามารถดูแลตัวเองได้ ก็อยากจะปล่อยรอมให้ออกไปเผชิญกับโลกภายนอกบ้าง ให้รอมฝึก ช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด เช่น ปล่อยให้รอมขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียนและกลับบ้านเอง เป็นต้น แต่รอมกลับไม่คิดอย่างนั้น รอมน้อยใจแม่อยู่บ่อย ๆ คิดว่าแม่ไม่รัก ไม่สนใจเหมือนลูกผู้หญิง ทำให้รอมใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนมากขึ้น รอมเริ่มเที่ยวกลางคืนและกลับมาติดบุหรี่อย่างหนัก
            ตอนแม่ป่วยเข้าโรงพยาบาลหลายวัน รอมหนีเที่ยวและได้รู้จักกับกิ๊ก กิ๊กเป็นเด็กสาว จากต่างจังหวัดที่มีปัญหาครอบครัวเป็นเด็กใจแตก ชอบหนีเที่ยวมาในกรุงเทพฯ โดยขโมยเงิน ของแม่มาใช้จ่ายอย่างสนุกสนาน กิ๊กกับรอมรู้จักกันมากขึ้น รอมแอบพากิ๊กเข้าบ้านโดยที่ไม่มี ใครรู้ ในระยะนี้รอมหนีโรงเรียนบ่อยจนเริ่มติดกัญชา และได้ใช้เวลาอยู่กับสิ่งเสพติด กระทั่ง วันหนึ่งแม่ผิดสังเกตได้เข้ามาในห้องของรอมและพบว่ารอมสูบบุหรี่และเห็นกิ๊กอยู่ในห้องกับรอม แม่ไม่พอใจกับการกระทำของรอม แม่ได้แยกกิ๊กกับรอมออกจากกัน และได้กล่าวเตือนรอมว่า ห้ามสูบบุหรี่อีก แต่กิ๊กกับรอมก็ยังแอบพบกัน โดยที่แม่ไม่รู้ และเมื่อรอมไม่สะดวกที่จะออกมา พบกิ๊กบ่อย ๆ เพราะกลัวแม่รู้ รอมไม่อยากทำให้แม่ลำบากใจอีกจึงได้ห่างกับกิ๊ก
            ต่อมากิ๊กได้ไปมีแฟนใหม่รอมเสียใจอยู่ระยะหนึ่ง จากนั้นรอมได้กลับมาเรียนหนังสือตามปกติ กิ๊กได้กลับมาหารอมอีกครั้ง และบอกกับรอมว่าไม่มีที่ไปและไม่เหลือใครอีกแล้ว ด้วยรอมเป็นคนใจอ่อนจึงสงสารกิ๊ก และกลับมาคบกับกิ๊กอีกครั้ง กิ๊กได้ชวนรอมออกไปมั่วสุมเสพกัญชากับเพื่อน ๆ ของรอม โดยที่แม่ไม่รู้เพราะแม่ทำงานหนัก ไม่ได้สนใจรอมเพราะแม่คิดว่ารอมน่าจะรู้แล้วว่าอะไรถูก อะไรผิด แต่ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม
            วันหนึ่งรอมไปสังสรรค์ที่บ้านของใหม่ รอมและเพื่อน ๆ รวมทั้งกิ๊ก ได้ร่วมกันมั่วสุมเสพยาเสพติด ทั้งบุหรี่ เหล้า กัญชา ซึ่งทั้งหมดหารู้ไม่ว่าพ่อของใหม่ได้แจ้งความกับตำรวจให้มาจับ เพราะอยากดัดนิสัยลูกของตนเองเหมือนกัน ไม่กี่นาทีต่อมารอมและเพื่อน ๆ ถูกจับในข้อหาเสพสารเสพติด เมื่อแม่รู้ข่าวรอมติดคุกก็รีบมาที่โรงพักเพื่อที่จะประกันตัวรอมออกไป แต่ไม่สามารถประกันตัวได้ เพราะรอมยังเป็นเยาวชน เขาได้ส่งตัวรอมและเพื่อน ๆ ไปดัดนิสัยปรับปรุงตัวที่บ้านเมตตา ส่วนกิ๊กนั้นถูกส่งไปอยู่บ้านปราณี ในระหว่างที่รอมอยู่บ้านเมตตานั้น แม่ได้มาเยี่ยมรอมทุกวัน ดูแลเอาใจใส่รอมเป็นพิเศษ หากรอมต้องการสิ่งใด ก็จะหามาให้ทุกอย่าง แม่ดูแลรอม อย่างดี เมื่อถึงกำหนดวันที่รอมออกจากบ้านเมตตา บรรดาพี่น้องและน้ารันต่างก็ดีใจ จัดงานเลี้ยงต้อนรับรอมกลับบ้าน ส่วนกิ๊กนั้นแม่ได้โทรศัพท์ให้แม่ของเธอมารับไป
           แม่อยากให้รอมบวช แต่รอมขอเลื่อนเวลาออกไปก่อน รอมกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ ต่อมากิ๊กถูกไล่ออกจากบ้านและได้กลับมาหารอมอีกครั้ง การมาครั้งนี้กิ๊กได้ยุยงให้รอมหนีออกจากบ้านไปกับเธอ เพราะคิดว่าเมื่อไม่มีใครรักแล้วเราจะอยู่ไปทำไม และรอมเองก็คิดเช่นเดียวกัน เพราะช่วงนี้รอมเหมือนจะมีชีวิตอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ ทั้งคู่ได้หนีไปอุบลราชธานี รอมได้นำกีตาร์ไปขาย 1 ตัวและจำนำอีก 1 ตัว ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง ส่วนกิ๊กนั้นไม่มีเงินติดตัวมาเลย ระหว่างการเดินทางกิ๊กได้ใช้จ่ายเงินอย่างสิ้นเปลือง ทำให้เงินเหลือน้อยลง ด้วยความบังเอิญ รอมได้พบกับใหม่อีกครั้ง ใหม่เองก็ทะเลาะกับพ่อหนีมาอยู่ที่อุบลราชธานีคนเดียว ใหม่พยายามพูดให้รอมเปลี่ยนใจ กลับบ้านไปหาแม่ กลับไปตั้งใจเรียนหนังสือ แต่รอมก็ไม่ฟัง ใหม่จึงบอกรอมให้พักอยู่ด้วยกันก่อน รอมบอกกับใหม่ว่าจะพักแค่คืนเดียว แล้วจะไปหาที่อยู่ใหม่ รอมจึงได้ รู้ว่าใหม่ติดยาเสพติดอย่างหนักและได้เห็นอาการของใหม่ขณะที่อยากกินยามันน่ากลัวมาก
            ในคืนต่อมารอมมีความลังเลใจและบอกกับกิ๊กว่าตนไม่ค่อยสบายใจ กิ๊กได้บอกกับรอมว่าเมื่อไม่มีใครรักแล้วเราจะอยู่ต่อไปทำไม รอมได้เก็บเอาคำพูดของกิ๊กมานอนคิดทั้งคืน พอรุ่งเช้ารอมได้ให้กิ๊กไปซื้อยานอนหลับมาหลายเม็ด รอมถามกิ๊กว่ากลัวตายหรือไม่ กิ๊กส่ายหน้า เมื่อได้ ยานอนหลับมาแล้ว รอมแบ่งยากับกิ๊ก แล้วนำยามากำไว้ในมือ แล้วอธิษฐานว่า ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดมาเป็นลูกแม่อีก ขอให้มีน้องที่น่ารักอย่างหนูนา แล้วรอมก็กินยาทำให้สลบไป
            แม่รับโทรศัพท์จากหมอบอกให้มารับรอมที่โรงพยาบาล การกินยาตายของรอม ไม่ทำให้รอมตาย อาจเป็นเพราะว่ารอมกินน้อยเกินไปหรืออาจมีใครมาพบเห็นเสียก่อน แม่ไปรับรอมออกมาจากโรงพยาบาล พร้อมกับโทรศัพท์หาแม่ของกิ๊ก ให้มารับกิ๊กกลับบ้าน เมื่อรอมมาถึงบ้าน แม่ก็พูดกับรอมว่าแม่เสียใจมากที่รอมทำอย่างนี้ แม่รู้สึกผิดต่อรอมมาก และถามรอมว่าทำไมถึงคิดที่จะฆ่าตัวตาย รอมไม่พูดอะไรจึงได้ขอโทษแม่ และสัญญากับแม่ว่าจะไม่ทำอีก จากเหตุการณ์นี้ทำให้แม่หันมาสนใจรอมมากขึ้นกว่าเดิม แม่คิดหาวิธีที่จะให้รอมแยกกับกิ๊ก แม่ขอร้องให้รอมบวช เขาจึงตัดสินใจบวชให้แม่ เพราะอยากจะไถ่โทษให้แม่ด้วย รอมไปบวชที่เชียงใหม่ ซึ่งที่นั่นไม่ลำบากอะไร มีบรรดาญาติ ๆ ฝ่ายพ่อคอยดูแล แม่ได้ฝากให้น้าเทพไปคอยดูแลรอมและคอยส่งข่าวให้แม่อยู่เป็นระยะ ๆ แม่ไม่ได้ไปเยี่ยมรอมเพราะแม่ต้องทำงาน ในระหว่างที่รอมบวชอยู่นั้น รอมต้องเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อมาขึ้นศาลในคดีเก่า แม่มักจะบ่นอยู่เสมอว่าข้าราชการทำงานช้า โอ้เอ้ อืดอาด ทำให้รอมต้องเสียเวลาเดินทางมากรุงเทพฯบ่อย ๆ เมื่อโรงเรียนใกล้เปิดเทอมแล้ว รอมจึงลาสิกขาบทและกลับมาอยู่บ้าน ทุกคนในบ้านต่างพากันหัวเราะที่รอมต้องโกนหัว เพราะ รอมดูตัวเล็กกว่ามดดำเสียอีก รอมกลับมาตั้งใจเรียนอีกครั้ง เขาขอแม่เรียนศิลปะ น้ารันก็ช่วยพูดกับแม่ให้ แม่จึงให้เรียน
            แม่กับเพื่อน ๆ ร่วมกันจัดสร้างสำนักพิมพ์ และเพื่อน ๆ ของแม่ก็ได้ลงมติให้แม่ เป็นบรรณาธิการ แม่เริ่มที่จะให้ความสนใจกับงานนี้มากเป็นพิเศษ จนไม่มีเวลาให้กับลูก ๆ อย่างเคยและเมื่อรอมเข้าไปพูดคุยกับแม่ ต้องมีสีหน้าเศร้ากลับมาทุกที รอมแทบไม่มีเวลาคุยกับแม่ รอมจึงมีเวลาว่างมากและได้หันกลับไปสูบกัญชาเพราะแม่ยุ่งกับงานใหม่จนไม่มีเวลาดูแลลูก ๆ มดดำเป็นผู้ที่คอยเฝ้าดูรอมอยู่เสมอแต่ไม่กล้าบอกแม่ เพราะรู้ว่าแม่ทำงานหนัก ถ้าเขารู้เข้า จะเดือดร้อน แม่ไม่ค่อยสบายอยู่ด้วย แม่จะหงุดหงิดเมื่อรู้ว่ารอมหนีโรงเรียน แต่จะไม่พูดรุนแรงเกรงว่ารอมจะเตลิดหนีไปอย่างเมื่อก่อน แม่กำลังวุ่นวายกับงานหนังสือ วันหนึ่งแม่สังเกตเห็นว่ารอมผอมกว่าปกติและจับกระดาษตะกั่วได้ที่หน้าต่างห้องรอมซึ่งวันนั้นเบิ้มมาค้างที่บ้านพอดี รอมบอกว่าเป็นของเบิ้ม แม่จึงสั่งไม่ให้เบิ้มมานอนที่บ้านอีก
            รอมเริ่มรู้สึกตัวว่าเขาไม่สบาย อาจเป็นเพราะว่าผลข้างเคียงจากการที่รอมติดยาเสพติด ทำให้รอมเจ็บออด ๆ แอด ๆ แม่เลยตัดสินใจพารอมไปหาหมอ แม่ได้สอบถามหมอเรื่องอาการ ของรอม เพราะแม่กลัวว่ารอมจะกลับไปติดสารเสพติดอีก แต่หมอก็บอกว่าไม่เป็นอะไรมาก เพราะผลการตรวจไม่พบสารเสพติดในตัวรอม แต่แม่ก็ไม่ค่อยวางใจเท่าไร รอมต้องนอนอยู่โรงพยาบาลประมาณหนึ่งเดือน แม่ได้พาพี่ ๆ น้อง ๆ ของรอมมาเยี่ยมทุกวัน เพราะไม่อยากให้รอมเหงา เขาอยู่โรงพยาบาลนานเกินไปทำให้รู้สึกอึดอัดจึงขอแม่กลับบ้าน เมื่อแม่เห็นว่ารอม ทนอยู่โรงพยาบาลไม่ได้แล้ว จึงได้ให้รอมกลับไปนอนพักผ่อนที่บ้าน
            รอมมีเวลาว่างมาก โรงเรียนก็ไม่ได้ไป ปีหน้ารอมถึงจะเริ่มเรียนใหม่ เสียเวลาเรียนไป 2 ปี ขณะที่รอมอยู่บ้าน เขาขรึมและซึมไป มักจะเก็บตัวในห้อง วันหนึ่งรอมได้สารภาพกับแม่ว่ารอมติดยาเสพติด เขาอยากไปรักษาตัวให้หายที่ถ้ำเขากระบอก จังหวัดสระบุรี แม่ก็ให้ไป แต่แม่บอกรอมว่าไม่มีเวลาไปเยี่ยม เนื่องจากแม่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดแก้วหู รอมบอกว่าไม่เป็นไร และจะเขียนจดหมายหาแม่ทุกวัน รอมไปถ้ำเขากระบอกกับเบิ้ม พ่อของเบิ้มไปเยี่ยมเบิ้มกับรอมเป็นประจำ ขณะที่รอมอยู่ที่นั่น แม่ก็ได้เปิดสำนักพิมพ์อย่างเป็นทางการแล้ว ในช่วงนี้แม่จึงยุ่งมาก จนลืมคิดถึงรอมไปเลย รอมได้เขียนเล่าชีวิตของรอมที่อยู่ถ้ำเขากระบอกมาหาแม่หนึ่งฉบับ แต่แม่ไม่ได้ตอบจดหมาย รอมเขียนจดหมายเล่าชีวิตความเป็นอยู่ที่ถ้ำเขากระบอกทุกวัน จนครบ 10 ฉบับ และคิดที่จะให้แม่เอามาตีพิมพ์เป็นหนังสือ เมื่อรอมกลับมาบ้าน รอมนำจดหมายทั้ง สิบฉบับนี้มาให้แม่ และแม่บอกว่าถ้าว่าง ๆ แล้วจะอ่านดู แต่แล้วแม่ก็ไม่ได้อ่านเพราะเห็นว่า ไม่สำคัญเท่าไร รอมได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติและคิดว่าจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด
            รอมทำความประหลาดใจให้แม่อีกครั้ง เมื่อรอมมาขอพระจากแม่ ภายหลังแม่จึงคิดได้ว่ารอมกำลังกลัวจะหนีอะไรสักอย่าง เหมือนที่เบิ้มและใหม่เคยหนีมาแล้ว นั่นก็คือความเย้ายวนของฤทธิ์ยาเสพติด ซึ่งคงเหมือนเทพธิดาแสนสวยกวักมือเรียกร้องให้เข้าไปหา เบิ้มให้ลูกประคำเสกคาถาแก่รอม แม่จึงรับปากว่าจะหาพระดี ๆ ให้ แต่แล้วแม่ก็ลืม แม่วางใจรอมว่าคงจะไม่กลับไปหายาเสพติดอีกแต่ก็อดที่จะสอดส่องดูแลความประพฤติของรอมไม่ได้ ครอบครัวของรอมจะจัดงานวันเกิดให้ลูกทุกคนมีการมอบของขวัญให้กัน ของขวัญชิ้นสุดท้ายที่รอมได้มอบให้มดดำคือกำไลทองเหลือง มดดำจะใส่ติดตัวตลอด นอกจากนั้นแม่จะพาครอบครัวไปพักค้างคืนที่ต่างจังหวัด ช่วงปิดภาคเรียน ทำให้ลูก ๆ ทุกคนได้สนุกสนานกันเต็มที่
            คืนนั้นรอมรอแม่กลับบ้าน เมื่อแม่มาถึงรอมได้เปิดประตูให้แม่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส มดดำและหนูนาหลับแล้ว หน่อยกลับจากมหาวิทยาลัยรอมได้ช่วยขนของจากรถให้พี่สาว แล้วรอมก็เข้านอน แม่ได้เดินไปส่งรอมที่ห้องนอน รอมจึงให้แม่ดูรูปของรอมที่เขาเขียนขึ้นเป็นครั้งแรก และยังถามแม่ว่ารอมเขียนรูปได้ไหม แม่บอกว่าได้และแม่เห็นว่าดึกมากแล้วจึงเข้านอน เมื่อถึงตอนเช้าคนรับใช้ได้บอกว่ารอมตายแล้ว ทุกคนตกใจและเสียใจมาก โดยเฉพาะแม่เมื่อรู้ว่ารอม จากไป แม่ล้มลงไปบนพื้นหญ้าตรงข้างห้องรอม ลุกขึ้นแล้วก็ล้มอีก ในที่สุดแม่ก็พยายามหาชีพจร และเรียกให้หน่อยขับรถพารอมไปโรงพยาบาล แม่ถามหมอว่ารอมตายเพราะอะไร หมอบอกว่ารอมหัวใจวายไปเฉย ๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่คำตอบที่แน่ชัด ไม่มีใครรู้ว่ารอมตายเพราะอะไร รอมต้องจากครอบครัวไปทั้งที่อายุยังน้อย แม่ได้จัดพิธีศพให้รอมอย่างยิ่งใหญ่ และแม่ได้เอาจดหมาย ที่รอมเขียนมาตีพิมพ์เป็นหนังสือไว้อาลัยแก่รอม นำรูปที่รอมเขียนทำเป็นหน้าปก หากแม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น แม่จะรักรอม เอาใจใส่รอมให้มากกว่านี้ แต่แม่ก็ทำไม่ได้ แม่บอกกับลูก ๆ ทุกคนได้เพียงว่า เราไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขอดีตได้ แต่เราควรทำวันนี้ให้ดีที่สุด

คุณค่าที่ได้รับ
            1. ด้านการดำเนินชีวิตประจำวัน เราต้องประสบกับปัญหาต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะ เป็นปัญหาที่เกิดจากตัวเราเองหรือปัญหาที่เกิดจากคนรอบข้าง เราก็ควรที่จะฝ่าฟันอุปสรรคนั้นไปให้ได้ เราต้องเข้มแข้ง ไม่อ่อนแอ ต้องใช้สติในการแก้ปัญหาและหาทางออกที่ดีที่สุด ไม่ใช่หาทางออกด้วยการไปเสพสิ่งเสพติด เพราะถือเป็นการทำร้ายตัวเอง และมันก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เราควรคำนึงถึงครอบครัวของเราด้วยว่าเขาจะเสียใจมากแค่ไหน ถ้ารู้ว่าประพฤติตัวไม่ดี
            2. ด้านครอบครัว การอยู่ร่วมกันในครอบครัว สมาชิกในครอบครัวต้องเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ต้องยอมรับความคิดเห็นของแต่ละฝ่าย ไม่ใช่คิดจะทำอะไรตามใจชอบ พ่อแม่ก็ควรที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีของลูก ไม่ควรทะเลาะให้ลูกเห็น เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่ดี พ่อแม่ควรเอาใจใส่ลูก ให้มาก ๆ และควรรักลูกให้เท่ากัน ควรให้เวลากับลูกอย่างเพียงพอ แต่ก็ไม่ควรตามใจลูกจนคิดอะไรไม่เป็น
            3. ด้านสังคม การอยู่ร่วมกันในสังคมนั้น เราต้องรู้จักวางตัวให้ถูกต้อง ต้องรู้ว่า อะไรผิด อะไรถูก ไม่ใช่คิดจะทำอะไรก็ได้ และเราควรจะคำนึงถึงคนรอบข้างของเราว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร  
            4.ด้านความรัก เราจะเห็นความรักของแม่ว่ามีค่ายิ่งใหญ่กว่าอะไรทั้งสิ้น คงไม่มีใคร บนโลกนี้ที่จะรักเราเท่ากับแม่ของเราได้แล้ว เช่นเดียวกับเรื่องนี้ ที่แม่ต้องพยายามฝ่าฟันอุปสรรคอยู่เพียงลำพัง เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ดูแลลูก ๆ ให้อยู่กินอย่างสบาย และต้องเลี้ยงลูก ๆ ที่มีนิสัยคนละแบบ ต้องแบกรับภาระหนักคนเดียว ฉะนั้นเมื่อเรามีชีวิตอยู่ก็ไม่ควรทำให้แม่ต้องเสียใจ และแม่จะเสียใจมากที่สุด ถ้าลูกรักต้องจากไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น